มาดูแลหนังศรีษะให้สุขภาพดีกับ PHYTO BOTANICAL POWER กันค่า

by - เมษายน 03, 2559

บองชู๊

ทักทายกันพอกรุบกริบกับภาษาฝรั่งเศสที่เราพูดได้แค่นี้ 5555555555 สวัสดีทุกคนน่ะค้าบบบ 
พูดกันถึงเรื่องเครื่องสำอางมาก็เยอะ วันนี้ขอเปลี่ยนสายมาเรื่องผมกันบ้างฮะ

เมื่อประมาณเกือบเดือนที่ผ่านมาต้าร์ได้ไปตรวจสภาพผมกับผู้เชี่ยวชาญที่
เคาน์เตอร์ PHYTO สาขาเอ็มโพเรียมมาค่ะ ตรวจลึกตรวจล้ำมาก



PHYTO คือ?

PHYTO (ฟีโท) เริ่มต้นด้วย คุณ แพทริค อาเลส แฮร์สไตล์ลิสชาวปารีส ที่ดูแลเส้นผมให้เซเลบริตี้ดังทั่วโลก อยู่ดีๆ วันหนึ่งเขาสังเกตว่า เห้ย! ทำไม่มือเรากับผิวเราแม่งพังอย่างงี้ว่ะ!! ลูกค้าเราก็สภาพผมพังด้วย เขาก็สืบไปสืบมาก็พบว่ามันเกิดจากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีสารเคมี ซึ่งเราพบเจอได้ทั่วไปในท้องตลาด บวกกับว่าเขาสนใจเรื่องธรรมชาติสร้างสรรค์ เลยลองหันไปศึกษาและทำวิจัยเรื่องนี่อย่างจริงจัง และก็เกิดมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติล้วนๆ ที่ชื่อว่า PHYTO

ปล. เขามีขายหลายอย่างเด้อออ ไม่ได้มีอันนี้อย่างเดียว


และนี้คือผู้เชี่ยวชาญที่มาตรวจผมให้ต้าร์ค่ะ ซึ่งต้าร์ก็ลืมชื่อเขาไปแล้ว ขอโทษค้าบบบบบ TvT ส่วนในมือคือใบที่ทางผู้เชี่ยวชาญเขาจะกรอกรายละเอียดของผมเรา พร้อมเลือกผลิตภัณฑ์จาก PHYTO ที่เราต้องใช้ว่ามีอะไรบ้าง เหมาะสมกับตัวไหนบ้าง

ในมือคือเครื่องตรวจผมและหนังศรีษะนะฮะ มันตรวจได้ละเอียดมากกกกกกกก ตอนตรวจนี้กลัวสุดว่าจะโดนผู้เชี่ยวชาญด่าไหมว่าหนังหัวพังหรือผมเสีย 5555555 สรุปว่าสภาพผมดีพอใช้ ไม่เสียมาก หนังหัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอใช้

และวันนั้นต้าร์ก็ได้เปิดตัวแฟนที่แอบคบมานานด้วยค่ะ #ตื่นค่ะต้าร์ 555555555555555 

" แต่สิ่งที่ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์หรือตัวเด็ดของ PHYTO และก็เป็นตัวที่ต้าร์ได้กลับมาลองใช้อย่างจริงๆ จังๆ ก็แน่นอนว่าต้องเป็นเจ้า PHYTOPOLLEINE BOTANICAL SCALP TREATMENT จ้าาาา "
เป็นเอสเซ็นเชียลออยล์ 100% ที่ใช้สำหรับบำรุงเส้นผมและหนังศรีษะ  เป็นการดีท็อกซ์หนังศรีษะ บรรเทาอาการผมร่วง ผมมัน และกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือดและเซลล์รากผมให้แข็งแรง ผู้เชี่ยวชาญบอกเราว่ามันเวิร์คกับหนังศรีษะมากที่สุดน่ะ แต่ก็สุดแท้แต่ละบุคคล และก็สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผมเลย


ด้านหลังข้่างในก็จะเป็นรายละเอยดส่วนประกอบต่างๆ นะคะ ในนี้เท่าที่ต้าร์ทราบแบบคร่าวๆ คือเขาจะสกัดด้วยกรรมวิธีการกลั่นแบบพิเศษที่ต้องใช้พืขเยอะมากกกก เช่น Cajuput , เลมอน , โรสแมรี่ และ Sage ที่เขาต้องใช้เยอะมากเพราะมันเป็นออยล์ 100% นั้นหมายความว่ามันจะไม่มีอะไรมาเจือปนเลย น้ำก็ไม่มีเช่นกัน มันเลยจะเข้มข้นมากๆๆๆๆๆๆ


ตัวหัวขวดเมื่อเปิดฝาออก จะเป็นจุกปลายแหลมที่ควบคุมปริมาณออยล์ที่ออกมาได้ดีทีเดียว 


เนื้อออยล์จะใสๆ ออกเหลืองหน่อยๆ ไม่เหนียวเหนอะหนะฮะ 
กลิ่นดีมากกกกกกกก เราชอบมากเป็นการส่วนตัว


วิธีใช้ก็มีดังนี้

ใช้ PHYTOPOLLEINE BOTANICAL SCALP TREATMENT ตามแนวหนังศรีษะไปเรื่อยๆ ให้ทั่วเลยฮะ แต่ไม่ต้องใส่จนชุ่มเด้อ


ใช้นิ้วเรานวดหนังศรีษะให้ทั่ว เพื่อให้ออยล์ซึมพร้อมกระตุ้นการไหลเวียนเลือดที่หนังศรีษะด้วยจ้า


จากนั้นทิ้งไว้ 10-20 นาที แล้วก็ไปสระผมได้เลยจ๊าาา


**ขอบ่งใช้ที่อยากบอก**

- PHYTOPOLLEINE BOTANICAL SCALP TREATMENT เขาแนะนำให้ใช้เพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวัน
- ในการใช้ 1-2 ครั้งแรก อาจมีอาการคันหนังศรีษะหรือเป็นรังแคได้ (ต้าร์คันหัวมากในครั้งที่2) แต่ครั้งที่ 3 4 5 และต่อๆ ไปหนังศรีษะจะกลับมาปกติและดีขึ้นกว่าเดิมฮะ


หลังจากสระผมสะอาดแล้ว ผมเราก็จะเด้งสู้แบบนี้ค่ะ!!


ความรู้สึกส่วนตัวหลังใช้

เราแอบใช้มาทั้งหมด 3 ครั้งหรือ 3 สัปดาห์แล้ว 
- ครั้งแรกไม่เป็นอะไรเลย ไม่คัน ไม่มีรังแค ปกติสุดๆ
- ครั้งที่ 2 คือคันหัวมากกกกกกกก คันและเกาจนเจ็บหัวแต่ก็อดทน 
- ครั้งที่ 3 ทุกอย่างปกติและดีขึ้น รู้สุกหนังหัวสะอาดและแข็งแรงขึ้น มันช้าลง และร่วงน้อยลงแต่ก็ไม่ถึงกับไม่ร่วงเลย ชอบที่สุดคือรู้สึกได้ถึงความสะอาดของหนังหัวจริงๆ 
อีกข้อที่เป็นผลพลอยได้ ในระหว่างที่หมักผมคือห้องจะหอมอบอวลไปด้วยกลิ่นเอสเซ็นเชียลออยล์ มันดีมากกกก ไม่ต้องซื้อเทียนมาจุดแหละ ประหยัดไปอีกกกก 5555555


ราคาเท่าไหร่
ราคาขวดละ 1550 บาท (25 มล.)
 แต่จะบอกว่าใช้ได้นานและคุ้มแน่ เพราะใช้ครั้งหนึ่งก็นิดเดียว แถมเดืนหนึ่งก็ใช้แค่ 4 ครั้งเท่านั้นเอง


หาซื้อได้ที่ไหน?
ไปรับคำแนะนำและช็อปปิ้งกันได้ที่เคาน์เตอร์ PHYTO ห้างสรรพสินค้าดิ เอ็มโพเรียม แผนก Beauty Hall ชั้น M หรือจะเข้าไปที่


ลองไปเช็คสภาพเส้นผมและหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับคุณดูค่ะ เพราะผมของเราในหนึงวันก็เจออะไรมาเยอะเน๊อะ 
ดูแลมันบ้างจะได้แข็งแรงและอยู่ให้เราม้วน หนีบ ยืด กันไปอีกนานๆ

หน้าสดไปอีกกกก ห้ามตกใจ 55555

ขอบคุณที่ติดตามชม
THANKS FOR WATCHING.




You May Also Like

0 ความคิดเห็น

Instagram